ดัชนีราคานาฬิกาแบรนด์เนมมือสองปรับตัวลงมาแล้วประมาณ 30% นับตั้งแต่ปรับขึ้นไปจนทำจุดสูงสุดในเดือน มี.ค. 2022 ตามข้อมูลจาก WatchCharts Market Indexes ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคา ประกอบไปด้วยนาฬิกา 60 รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากแบรนด์ดัง เช่น Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet โดยดัชนีราคาของ Rolex นับถึงวันที่ 30 ก.ค. 2023 ปรับลดราว 12.5% เทียบปีที่แล้ว ดัชนี Patek Philippe ปรับลง 18% และดัชนี Audemars Piguet ลดลงเกือบ 20%

สาเหตุที่ฉุดให้ราคานาฬิกาแบรนด์เนมมือสองปรับลงในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากอุปสงค์ในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่มีความกังวลว่าอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยส่งผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและกระทบถึงการซื้อสินค้าหรูหรา แต่อีกปัจจัยที่มีส่วนสำคัญคือเรื่องสภาพคล่อง โดยช่วงที่ราคานาฬิกาทะยานไปสู่จุดสูงสุดคือช่วงต้นปี 2022 เป็นช่วงที่มีสภาพคล่องล้นตลาด สังเกตจากได้ปริมาณเงิน M2 ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว อันเป็นผลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเพื่อพยุงเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 แต่เมื่อ FED เริ่มถอนสภาพคล่องและลดขนาดงบดุล พร้อมทั้งเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สภาพคล่องส่วนเกินก็เริ่มลดหายไป ส่งผลให้ราคานาฬิกาแบรนด์เนมมือสองปรับลดลงมาด้วย ซึ่งประเด็นการขาดสภาพคล่องเป็นที่น่าสนใจว่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวขึ้นได้โดยผลตอบแทนดัชนี S&P500 ตั้งแต่ต้นปีนี้อยู่ที่ราว 18% ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังเพราะตลาดปรับขึ้นมาแล้วพอสมควรแต่สภาพคล่องที่ลดลง อาจทำให้นักลงทุนขายทำกำไรได้ทุกเมื่อ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับนาฬิกาแบรนด์เนมมือสอง