พอร์ตการลงทุนที่ดีเริ่มอย่างไร?
1. กำหนดเป้าหมายของพอร์ตการลงทุน
การกำหนดเป้าหมายผลลัพธ์ให้ชัดเจนมีความสำคัญ และพอร์ตการลงทุนของแต่ละคนแต่ละแบบประกอบด้วยเงื่อนไขและระยะเวลาที่ต้องการบรรลุเป้าหมายแตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อการเลือกประเภทของสินทรัพย์ลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงและผลตอบแทน
2. สำรวจตนเอง
การพิจารณาความเหมาะสมของตัวเอง ทั้งระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ทั้งในแง่ของทัศนคติที่มีต่อการลงทุน อายุ ฐานะ การเงิน และความอดทนต่อการขาดทุน
3. จัดพอร์ตการลงทุน
เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการบริหารพอร์ตการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ โดยการแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ ประเภทที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่ตัวเรายอมรับได้
4. ติดตามผลและปรับปรุงพอร์ต
ควรตรวจพอร์ตทุกๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี ว่าผลลัพธ์มีความใกล้เคียงหรือเป็นไปตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้หรือไม่ เพื่อที่จะสามารถปรับพอร์ตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ทัน
ลักษณะของพอร์ตการลงทุนที่ดี
1. ต้องเป็นเงินเย็น
การลงทุนทุกสินทรัพย์มีความผันผวน โดยเฉพาะหุ้นที่อาจขาดทุนได้มากกว่า 20% ในปีใดปีหนึ่ง ดังนั้นเงินที่นำมาลงทุนควรเป็นเงินเย็นที่ไม่มีความจำเป็นต้องนำออกมาใช้อย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป
2. มีสภาพคล่องสูง
ไม่ควรทุ่มเงินลงทุนเพื่อการลงทุน
3. มีความยืดหยุ่น
สามารถปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
4. ไม่หลากหลายหรือกระจัดกระจายมากเกินไป
เพราะจะทำให้ยากในการติดตามราคาและข่าวสาร
5. มีสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
มีความสมดุลกันระหว่างการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อย ให้ผลตอบแทนค่อนข้างแน่นอน
Tips
แน่นอนว่าช่วงต้นของชีวิตการทำงาน เรามีความต้องการสิ่งจำเป็น เช่น บ้านหรือรถยนต์ ทำให้ไม่แปลกใจว่าทำไมสินทรัพย์ประเภทบ้านและรถยนต์มีสัดส่วนที่สูงในคนกลุ่มช่วงเริ่มทำงาน
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป เราต้องตระหนักเสมอว่าเราต้องสะสมสินทรัพย์ลงทุนมากขึ้นตามคนที่มั่งคั่ง เช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุน หรืออสังหาริมทรัพย์ เพราะไม่ฉะนั้นเราจะติดกับดักรายได้ปานกลางและไม่สามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้