หาหุ้นลับในพอร์ต Warren Buffett กูรูการลงทุนชื่อดัง เริ่ม EP.1 ด้วยหุ้น McKesson (MCK) บริษัทเฮลท์แคร์รายใหญ่ในสหรัฐฯ อาจไม่ใช่ชื่อที่คนไทยรู้จักกันมากนัก แต่ธุรกิจดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะธุรกิจหลักคือเครือข่ายการกระจายและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงเทคโนโลยีด้านเวชระเบียนแบบครบวงจร เช่นในช่วงการระบาดของโควิด-19 MCK ก็ได้เป็นผู้กระจายวัคซีนรายหลักในสหรัฐฯ
ธุรกิจของ MCK มีความทนทานต่อภาวะความผันผวนเศรษฐกิจ ตามหลักการของ Buffett ที่ต้องหาหุ้นที่สามารถยืนหยัดผ่านทุกวิกฤตเหมือนป้อมปราการที่มีคูน้ำล้อมรอบ (Moat) ช่วยป้องกันภัยและความไม่แน่นอนจากภายนอกได้ดี
“สิ่งสำคัญที่สุดในการประเมินธุรกิจคือประเมินว่าคูน้ำที่ช่วยปกป้องป้อมปราการมีขนาดใหญ่ขนาดไหน ธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งที่แท้จริงต้องมีคูน้ำล้อมรอบที่ทนทานซึ่งคุ้มกันผลตอบแทนของการลงทุนได้”
Warren Buffett กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก BERKSHIRE HATHAWAY PORTFOLIO TRACKER ของสำนักข่าว CNBC ระบุว่า Berkshire บริษัทของ Buffett ถือหุ้น MCK ทั้งหมดประมาณ 2.28 ล้านหุ้น เป็นมูลค่าประมาณ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนราว 0.3% ในพอร์ตหุ้นทั้งหมดของ Berkshire ตามข้อมูลสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2023
ราคาหุ้น MCK
ประวัติบริษัทและลักษณะธุรกิจ
McKesson ก่อตั้งในปี 1833 นับจนถึงตอนนี้มีอายุถึง 190 ปี หรือเกือบ 2 ศตวรรษ โดยเริ่มจาก John McKesson และ Charles Olcott นักธุรกิจสองคนร่วมกันก่อตั้งธุรกิจนำเข้าและค้าส่งผลิตภัณฑ์ยาไปทั่วสหรัฐฯ ก่อนจะขยายธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายยา เครื่องดื่ม และเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ต่อมาบริษัทยังได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เกี่ยวกับการแพทย์ โดยจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1994
ธุรกิจปัจจุบัน MCK มีธุรกิจหลักเป็นเครือข่ายการกระจายยาขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ คิดเป็นสัดส่วน 87% ของรายได้ทั้งหมด โดยหลักๆ ทำหน้าที่กระจายผลิตภัณฑ์ยาให้ร้านขายยารายย่อยและโรงพยาบาล พร้อมกับกระจายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทางการแพทย์ และบริการอื่นๆ ให้ศูนย์การแพทย์ทั่วทั้งสหรัฐฯ
นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ให้บริการกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ศูนย์การแพทย์ และศูนย์บริการดูแลผู้ป่วยตามบ้าน โดยระบบที่ให้บริการรวมถึงระบบอัตโนมัติด้านข้อมูลยาและการรักษาพยาบาล การจัดการด้านฝึกอบรมบุคลากร ระบบข้อมูลเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินิก (Clinical Decision Support System: CDSS) และการสื่อสารข้อมูลทางการแพทย์แบบออนไลน์
ดูในภาพรวมแล้ว MCK มีการดำเนินธุรกิจที่เรียกได้ว่าครบวงจรในการแพทย์ ทั้งระบบเครือข่ายการกระจายและจัดจำหน่ายยาและอุปกรณ์การแพทย์ อีกทั้งระบบไอทีให้บริการโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ต่างๆ โดยบริษัทระบุว่า มากกว่า 75% ของโรงพยาบาลในสหรัฐฯ ที่มีมากกว่า 200 เตียง เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์หรือระบบเทคโนโลยีของ McKesson
รายได้และอัตรากำไรขั้นต้น
MCK มีการเติบโตในระดับที่ค่อนข้างต่อเนื่องและคงที่ทั้งในด้านรายได้และกำไรขั้นต้น โดยบริษัทรายงานรายได้งบการเงินปี 2023 สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2023 อยู่ที่ 2.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5% เทียบกับปีที่แล้ว
Outlook
บริษัทคาดการณ์ว่า EPS ในงบปี 2024 จะอยู่ที่ระหว่าง 26.10-26.90 ดอลลาร์ คิดเป็นการเติบโต 1-4% เทียบงบปี 2023 โดยยังมั่นใจว่ารายได้มีแนวโน้มจะเติบโตได้ต่อไปจากธุรกิจหลักคือเครือข่ายการกระจายสินค้าและระบบ IT ให้บริการลูกค้าศูนย์การแพทย์ ซึ่งชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปจากการหมดสัญญารับหน้าที่ตัวกลางกระจายวัคซีนโควิดให้รัฐบาลสหรัฐฯ เพราะหมดการระบาดของโรคไปแล้ว
Valuation
PE (Trailing) | 14.98 | |
PE (Forward) | 15.00 | |
Last Price | $391.15 | |
Target Price (Bloomberg Consensus) | $432.22 | |
Upside | +9.50% |
ตารางสรุปงบการเงิน
*ROE เป็นตัวเลขติดลบเนื่องจาก MCK มีการซื้อหุ้นคืน
ทำไมหุ้น MCK มีความน่าสนใจ
1 ธุรกิจแน่นอนและคงที่
ลักษณะธุรกิจของ MCK เป็นเครือข่ายกระจายผลิตภัณฑ์ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่งให้ลูกค้า ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่มทั้งร้านขายยาแบบค้าปลีก โรงพยาบาล และศูนย์การแพทย์ พร้อมกับมีธุรกิจ Solutions ให้บริการด้านระบบข้อมูลและจัดการบริหารข้อมูลภายในโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจด้านเฮลท์แคร์ที่ครบวงจรและมีลูกค้าที่แน่นอน โดยธุรกิจลักษณะนี้มีความคล้ายกับของหุ้นไทยคือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ซึ่งมีรายได้ราวครึ่งหนึ่งจากธุรกิจการจัดจำหน่ายยา
2 รายได้และกำไรเติบโตสม่ำเสมอ
ด้วยธุรกิจที่เป็นเครือข่ายกระจายสินค้าและให้บริการเทคโนโลยีระบบข้อมูล MCK จึงมีรายได้และกำไรที่เติบโตค่อนข้างสม่ำเสมอตามข้อมูลรายได้และกำไรขั้นต้นที่อธิบายไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารยังมีโอกาสหาลูกค้ารายใหม่และรายได้เข้ามาเพิ่มได้เรื่อยๆ แม้แต่ในช่วงวิกฤต เช่นช่วงซับไพรม์ ปี 2008 รายได้ของบริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้น
3 มีจ่ายปันผลทุกปี
MCK มีการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอและต่อเนื่องทุกปี โดย Dividend Yield ในปี 2023 อยู่ที่ระดับ 2.09% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ระดับ 1.83%
4 Valuation ยังไม่แพง
Valuation ของ MCK ยังถือว่าไม่แพง โดยปัจจุบัน P/E Ratio อยู่ที่ 14.86 (ข้อมูลล่าสุดวันที่ 16 พ.ค. 2023) ต่ำกว่า P/E ของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 16.76 และต่ำกว่า P/E ของดัชนี S&P500 ที่ระดับ 18.53