Carlos Slim Helu นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดของเม็กซิโก ผู้มีสินทรัพย์สุทธิ 7.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เคยกล่าวไว้ว่า

“จงเริ่มต้นเก็บออมเงินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรก็ตาม ยิ่งคุณเริ่มเก็บออมและบริหารจัดการเงินเร็วเท่าไร คุณจะยิ่งมีชีวิตที่ดีกว่าในช่วงบั้นปลาย

Carlos Slim Helu เริ่มลงทุนในธนาคารเม็กซิโกเมื่ออายุได้ 12 ปี และทำงานในบริษัทของพ่อตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น โดยได้รับค่าจ้าง 200 เปโซต่อสัปดาห์

Warren Buffett หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกตลอดกาล ใช้ชีวิตอย่างประหยัดในบ้านราคา 31,500 ดอลลาร์สหรัฐที่ซื้อไว้ในปี 1957 คำแนะนำอันโด่งดังหนึ่งของ Buffett ที่ฝากไว้ให้คนรุ่นเยาว์คือ

“ใช้ชีวิตให้เรียบง่ายเข้าไว้”

Buffett เสริมว่า “คุณเดินอยู่บนลู่วิ่งทางราบ ไม่ใช่บันไดเลื่อนที่ไต่ระดับขึ้นไป ถ้าคุณยังจะไขว่คว้าหาสิ่งที่ไม่จำเป็นอยู่ตลอด”

นอกจากนี้เขายังเน้นเรื่อง “การค้นหาความชื่นชอบ” โดยบอกว่า ถึงแม้คุณกำลังทำงานเป็นพนักงานเงินเดือน แต่ลองหาสิ่งที่ตัวเองชอบและให้เวลากับมัน นั่นจะเป็นหนึ่งในหนทางสู่การประสบความสำเร็จ

ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันทุกวันนี้ ถ้าคุณไม่สนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ คุณจะเสียเปรียบทั้งในตลาดงานและตลาดการค้า

Ingvar Kamprad ผู้ก่อตั้ง IKEA เชื่อว่า การใช้จ่ายบางอย่างไม่มีความจำเป็น แม้ว่าคุณจะมีเงินให้ใช้เยอะก็ตาม เขาเองก็เป็นเช่นเดียวกับคนร่ำรวยมหาศาลคนอื่นๆ ที่ชอบการนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดมากกว่านั่งเครื่องบินส่วนตัว และยังคงขับรถ Volvo ที่ใช้มานาน 10 ปี

“เราไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์หรูๆ มียศฐาบรรดาศักดิ์ใหญ่โต สวมเครื่องแต่งกายราคาแพง หรือแสวงหาสัญลักษณ์บ่งบอกสถานะอื่นๆ”

Kamprad เขียนไว้ในบันทึกส่วนตัวว่า คำแนะนำทางการเงินของเขาคือเน้นที่การแยกสิ่งที่จำเป็นออกจากสิ่งที่อยากได้

John Donald MacArthur ผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียวของ Bankers Life and Casuality Company of Chicago ซึ่งมีสินทรัพย์สุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเขาเสียชีวิตในปี 1978 (คิดเป็น 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน) เคยกล่าวไว้ว่า

“การประหยัดมัธยัสถ์คืออีกหนึ่งหนทางสู่การเป็นนักธุรกิจที่ดี”

MacArthur เริ่มเส้นทางอาชีพด้วยการเข้าซื้อธุรกิจเล็กๆ แห่งเดียว และขยับขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นมา

แม้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหรูหราฟู่ฟ่าของฮอลลีวูด แต่ MacArthur ปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อกระแสสังคมฟุ้งเฟ้อและใช้ชีวิตอย่างประหยัด เขาไม่เคยใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายไปกับความหรูหรา ไม่จ้างเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และใช้ชีวิตด้วยเงินเพียง 25,000 ดอลลาร์ต่อปี

“การยอมจ่ายเงินเพื่อใช้เงินของคนอื่นชั่วคราวจะยิ่งทำให้คุณจนลง แต่การชาร์จเงินเพื่อให้คนอื่นใช้เงินของคุณได้ชั่วคราวจะทำให้คุณรวยขึ้น”

Stacy Johnson อดีตนักวิเคราะห์ Wall Street กล่าว

Stacy เสริมว่าการขอยืมเงินไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไปถ้าจำเป็นต่อความอยู่รอด แต่ก็แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการทำเช่นนั้นหากเป็นไปได้ เพราะยิ่งคุณมีหนี้น้อยเท่าไร สถานภาพทางการเงินของคุณจะยิ่งดีขึ้น

“หากคนๆ หนึ่งได้นั่งอยู่ใต้ร่มเงาในวันนี้ นั่นเป็นเพราะเขาปลูกต้นไม้ไว้เมื่อนานมาแล้ว”

นี่เป็นอีกข้อคิดจาก Warren Buffett ซีอีโอของ Berkshire Hathaway ที่ต้องการสื่อว่าการลงทุนอย่างต่อเนื่องในระยะยาวคือทางเลือกที่ดีกว่าการลงทุนที่ไม่แน่นอนในระยะสั้น

Buffett ลงทุนในธุรกิจที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (Undervalued) และถือหุ้นนั้นไว้เป็นเวลานาน โดย Buffett ยังแนะนำว่าการลงทุนให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่การหาทางลัดให้รวยเร็ว แต่ควรระมัดระวังการเลือกหุ้นตามเทรนด์ สตาร์ทอัพที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ และการลงทุนที่น่าสงสัย ซึ่งให้คำมั่นว่าจะสร้างผลกำไรก้อนใหญ่

คงไม่มีใครไม่รู้จัก Bill Gates ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ที่มีสินทรัพย์สุทธิ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาเองก็เป็นเช่นเดียวกับเศรษฐีคนอื่นๆ ที่เลือกไม่เอาเงินฝากไว้ในธนาคารเฉยๆ

“เราไม่ได้ปกป้องความเสี่ยงเลยถ้าเก็บเงินทั้งหมดไว้ในรูปแบบเงินสด กลยุทธ์ที่ผมใช้คือลงทุนในหุ้นเกิน 60%”

Gates ป้องกันความเสี่ยงด้วยการจัดการพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ที่ผมผสานกันระหว่างสินทรัพย์ทางการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และของสะสมต่างๆ เขายังเสริมด้วยว่า “อย่าเอาไข่ใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว”

นี่คือสาเหตุว่าทำไมการจัดพอร์ตให้กระจายการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์จึงสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม หรือทองคำ นอกจากนี้สินทรัพย์ทางธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ และของสะสมต่างๆ ยังสามารถใส่เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนได้ด้วยเช่นกัน